Wednesday 5 September 2012

Painting with Pomme ; ลายเส้นของชีวิตจริง

  
เหตุเกิดที่งานปาร์ตี้ลับ เปิดตัวเบียร์สดสิงห์ที่บาร์แห่งหนึ่งใน Bricklane ผมได้มีโอกาสไปร่วมเป็นผู้ช่วยสร้างผลงานลายเส้นบนผ้าใบขนาดใหญ่กว่าสองเมตร กับศิลปินนักวาดไทย คุณปอม ธัชมาพรรณ จันทร์จำรัสแสง หรือ Pomme Chan ต่อหน้าผู้ร่วมงานจำนวนมากพอดู มีคำถามหนึ่งถูกถามขึ้นท่ามกลางกลิ่นสีและเสียงเพลง

“สิ่งที่หนูทำเนี่ย หนูคิดว่าเป็นพรสวรรค์หรือพรแสวงคะ?”

คำถามนี้ผมถูกถามบ่อยครั้ง แต่กลับหาคำตอบได้ยากมาก
ผมมองหน้าคุณปอมอย่างเลิกลัก มีหนึ่งถือพู่กันเปื้อนอคิลิคสีทอง อีกมือหนึ่งถือkebabห่อไก่(พึ่งได้กินไปได้สองคำ) พร้อมพยายามเค้นคำตอบ ซึ่งฟังดูไม่ขี้โอ่จนเกินงาม
ส่วนคุณปอมนั้น เธอยิ้มเก๋ๆ พลางตอบคำถามได้อย่างฉะฉานและชัดเจน ทำเอาทั้งผมและคนถามอึ้งไปชั่วขณะ
“การวาดรูปเป็นสิ่งที่ทุกคนฝึกได้ แต่งานของแต่ละคนล้วนออกมาสวยงามมากน้อยต่างกัน…
มันไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยใจรักและความพยายามที่จะทำมันให้เป็นอาชีพ ปอมก็เหมือนกับเด็กไทยทั่วๆ ไปแหละคะ”
จริงๆ แล้วก็ไม่น่าแปลกใจที่เธอจะสามารถสร้างสรรค์คำตอบได้อย่างสวยงามในเสี้ยววินาที  เนื่องจากเธอผ่านการสัมภาษณ์มาอย่างโชกโชน ทั้งกับสื่อเมืองไทย เช่น หนังสือพิมพ์ มติชน, นิตยสาร ดิฉัน, รายการโทรทัศน์ สุริวิภา, หรือสื่อเมืองนอก อย่าง Internation Design Network, Grafik, FT Magazine ไปจนถึง ตอบคำถามนักศึกษาตอนเป็นวิทยากรรับเชิญ ที่มหาวิทยาลัยศิลปากร และ London College of Communication เป็นต้น
….แต่ผมว่า คำตอบที่ชัดเจนที่สุดต่อคำถามนี้ ไม่ได้อยู่ที่คำพูดของเธอ
มันอยู่ในการกระทำของเธอต่างหาก

ถ้าหากย้อนไปเมื่อห้าปีที่แล้ว ก่อนที่เธอจะเป็นนักวาดภาพประกอบ (illustrator) เต็มตัว ก่อนที่เธอจะมีชื่อเสียง
ก่อนที่เธอจะพบคู่ชีวิตชาวฝรั่งเศสและแต่งงานถือสถานะเป็นEU citizen…
นางสาว ธัชมาพรรณ ก็เป็นอีกหนึ่งนักศึกษาไทย ที่ตั้งใจมาเรียน ใช้ชีวิต ค้นหาตัวตนและสิ่งที่“ใช่”ในกรุงลอนดอน เข้าเรียนคอร์ส Foundation สาขา Graphic Design ที่ London College of Communication, ไปผับไทย, มีทั้งเพื่อนแท้และเพื่อนเที่ยว, ต้องฝึกภาษา, กังวลเรื่องวีซ่า เหมือนนักเรียนไทยหลายๆคน
มีอยู่อย่างหนึ่งที่เห็นว่าแตกต่างไปก็คือ “ความตั้งใจ” ที่แน่วแน่ของเธอ
เริ่มตั้งแต่ระหว่างเวลาที่เรียนอยู่สองปี เธอได้สมัครและไปฝึกงานกับบริษัทต่างๆถึงห้าแห่ง จนมีผลงานเป็นชิ้นอันมากมาย ถึงกระนั้นพอจบมา เหล่าบริษัทต่างๆก็ยังไม่รับเธอเข้าทำงานแบบFull time ซะที เนื่องจากความยุ่งยากของการเป็นสปอนเซอร์และการขอวีซ่า มิหน่ำซ้ำเมื่อวีซ่านักเรียนหมด ทางบ้านที่ไทยก็ขอร้องให้เธอกลับ ถึงขนาดมัดมือชกไม่ส่งเงินให้ อยากอยู่ต่อก็ให้หาเองใช้เอง “พูดแบบไม่กระแดะนะคะ ชีวิตที่ไทยมันเป็นอะไรที่ง่าย ต่างกับที่นี่” คุณปอมเล่า “บ้านก็ไม่ต้องเช่า ข้าวก็ไม่ต้องหุง…แต่พอต้องทำทุกอย่างเอง เหนื่อย เราก็เห็นคุณค่าของชีวิตมากขึ้น”  
เมื่อถูกถามถึงประวัติของเธอ เธอบอกผมว่า เธอไม่ชอบเล่าถึงความลำบาก…
แม้ว่าชีวิตกัดฟันสู้ของเธอ มักจะเป็นประเดนเด่นที่ถูกสื่อนำมาเสนอเพื่อเป็นกำลังใจให้กับคนอื่นๆอยู่เสมอ
อาธิเช่น ครั้งที่เธอต้องไปทำงานเป็นพนักงานเสริฟในร้านอาหารไทย, ครั้งที่ไปทำงานบริษัทแล้วเกิดเจ๊งกลางคัน ไม่ได้เงินเดือน, ครั้งที่ต้องไปเป็นช่างแต่งหน้าที่Selfridges และใช้เวลาว่างหลังเลิกงานเพื่อวาดรูป, ครั้งที่ต้องบากหน้าไปกู้ธนาคาร ขอเงินมาตั้งตัว ยืนยันกับผู้อนุมัติกู้พร้อมน้ำตาว่า “มันคืองานในฝันของฉัน ฉันทำได้  ฉันจะมีลูกค้าและมีเงินจ่ายคืนให้คุณแน่นอน”….กว่าจะได้มีเงินมาทำเว็บไซต์ เดินสายเข้าประชุมเสนอขายงานกับลูกค้า ซึ่งไม่ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จทุกครั้งไป…

ในความเป็นจริง คุณปอมวางอดีตไว้ในอดีต มองแค่อนาคตข้างหน้า และทำกับสิ่งที่มีวันนี้ให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ตาม

ปัจจุบัน ชื่อของ Pomme Chan ได้รับการยอมรับในวงการออกแบบของลอนดอนและทั่วโลก ด้วยผลงานที่มีแรงบันดาลใจมากจากรูปแบบสถาปัตยกรรมและความอ่อนช้อยในเรือนร่างของสตรีเพศ ถ่าทอดผ่านหมึกปากกา กลายมาเป็นลายเส้นภาพและอักษรศิลป์(Typography)ที่สวยงามและเข้าถึงง่าย  ประสบความสำเร็จจนมีเอเจนท์รับลูกค้าให้ในประเทศอังกฤษ เยอรมัน รัสเซีย และอเมริกา
เธอได้ทำงานให้กับแบรนด์ชั้นนำอย่าง Sony, MTV, Volkswagen, Mercedes-Benz, Marc Jacobs, Microsoft, The Guardian, Nike, Topshop และอื่นๆอีกมากมาย
เป็นบทพิสูจน์ให้เห็นว่า ความสามารถของสาวไทยคนนี้ ไม่เป็นสองรองใคร
แม้แต่ครอบครัวที่ไทยก็ต้องยอมรับในฝีมือและความตั้งใจของเธอ “อาจจะดูเห็นแก่ตัวนะคะ ที่ปอมเลือกจะอยู่ที่นี่แทนที่จะกลับไปดูแลพ่อแม่” เธอกล่าว “แต่ว่าปอมคิดว่าเรามีชีวิตอยู่เพื่อตัวเราเอง,,, และเขาก็รู้ว่าสิ่งที่ปอมทำอยู่ตอนนี้ปอมมีความสุข พ่อแม่ก็ไม่ได้อยากได้อะไรมากกว่านั้นแล้ว”


ในงานวันนั้น ผมคิดถึงเรื่องราวของคุณปอมในขณะที่ลากผู่กัน สร้างลายเส้นสีทองไปตามดีไซน์ที่เธอร่างไว้
เป็นลายเส้นที่ชัดเจน มีความละเอียดอ่อนและเคลื่อนไหวเป็นธรรมชาติ เป็นลายเส้นที่แฝงความสวยงามแบบไทยไว้ในลักษณะสากลร่วมสมัยอย่างลงตัว เป็นลายเส้นที่เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ของชีวิตจริง ที่ไม่เคยถูกโรยไปด้วยกลีบกุหลาบ

ส่วนจะเป็นพรสวรรค์หรือพรแสวงนั้น อันนี้คงต้องพิจารณากันดูเอง



ติดตามผลงานอื่นๆของ คุณปอม ได้ที่ http://pommepomme.com


(บทความนี้ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตรยสาร ThaiSmile (UK) ฉบับ113 ภาพประกอบโดยคุณโอ๊ต ชัยสิทธิ์:http://www.oat-chaiyasith.com/)

No comments:

Post a Comment